การดื่มน้ำมากไปหรือน้อยไป ล้วนส่งผลต่อความสามารถในการปั่นทั้งนั้น แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าควรดื่มเท่าไรจึงจะพอดี
สังเกตพฤติกรรม
คอยสังเกตน้ำหนักของตัวเองไว้ให้ดี ถ้าอยู่ๆน้ำหนักก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นอาจเป็นสัญญาณของร่างกายที่ขาดน้ำ หรือคุณอาจเช็คได้จากสีของปัสสาวะที่ควรจะเป็นสีใส แต่ถ้ามันเข้มขึ้นคุณควรดื่มน้ำให้มากขึ้น
ปรับนิสัยใหม่
ก่อนจะห่วงว่าควรดื่มน้ำยังไงถึงจะดีกับการปั่น คุณควรปรับนิสัยการดื่มน้ำในแต่ละวันให้ดีก่อน เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ คุณควรดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ 2-3 ลิตรต่อวัน ทั้งนี้ไม่นับรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา หรือกาแฟ แต่ยังไงเสียเครื่องดื่มพวกนี้ก็ไม่มีผลให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่ในร่างกายน้อยลง
กิจวัตรก่อนการปั่น
ถ้าหากปริมาณน้ำในร่างกายมีอยู่อย่างเหมาะสมแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องดื่มก่อนการปั่นให้มากกว่าปกติเพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้วยังจะทำให้คุณจุกอีกต่างหาก ให้ดื่มเครื่องดื่มให้พลังงานปริมาณ 500-700 มิลลิลิตร สักขวดก่อนการปั่นระยะไกลก็เพียงพอแล้ว
ดื่มระหว่างปั่น
หัวใจสำคัญคือดื่มให้น้อยแต่บ่อย และดื่มก่อนที่คุณจะรู้สึกกระหาย และดื่ม 2-3 อึกใหญ่ๆ ทุก 10-15 นาที การคำนวณปริมาณน้ำที่ควรดื่ม วิธีหนึ่งคือชั่งน้ำหนักตัวเองตอนที่ร่างกายไม่ขาดน้าก่อนการปั่น หลังจากนั้นออกไปปั่นเหมือนกับลงแข่งขันประมาณ 1 ชั่วโมง โดยที่ไม่ดื่มน้ำระหว่างปั่นเลย หลังปั่นเสร็จชั่งน้ำหนักอีกครั้งจำนวนน้ำหนักที่หายไปจะเทียบเท่ากับปริมาณน้ำที่เสียไป
เยอะไปหรือเปล่า?
ดื่มน้ำเยอะเกินไปนั้นไม่ดี ถ้าน้ำหนักลดลงไปเยอะ แล้วใช้วิธีดื่มน้ำทดแทนน้ำหนักที่หายไปทั้งหมดคงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีแน่ เพราะจะกลายเป็นการทำลายสมดุลของของเหลวในร่างกายแทน แค่เครื่องดื่มทดแทนเกลือแร่สักขวด กับน้ำเปล่าอีกหนึ่งขวดระหว่างการปั่นนั่นกำลังดี
ข้อมูลดีดี จาก http://www.cyclingplusthailand.com/
นำสาระมาฝาก http://www.lhpsport.com/
หน้าที่เข้าชม | 309,963 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 205,093 ครั้ง |
เปิดร้าน | 6 ม.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |