ปั่นจักรยานรักษาโรค

การปั่นช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญไขมัน และเบิร์นแคลอรี่ในแต่ละวันได้มาก แม้หลังการปั่น ระบบการเผาผลาญในร่างกายยังมีการทำงานอย่างต่อเนื่องต่อไปอีก 2-3 ชั่วโมง หรือที่เรียกว่าสภาวะ After Burner แต่ต้องมีการปั่นอย่างน้อย 30 นาที 

การปั่นจักรยาน (อย่างน้อย 30 นาที) ทำให้เหนื่อย เหงื่อออก รู้สึกกระหายน้ำ และดื่มน้ำมากกว่าปกติ การดื่มน้ำช่วยเพิ่มความคล่องตัวภายในลำไส้ ช่วยให้ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดี และเป็นระบบขึ้น

การปั่นจักรยานช่วยกระตุ้นระบบหายใจ การเต้นของหัวใจ และระบบย่อยอาหาร ช่วยเพิ่มการบีบรัดตัวของลำไส้ เป็นการบริหารลำไส้ และช่วยให้เกิดอาการอยากถ่าย

ร่างกายอ่อนล้าจากการเผาผลาญพลังงาน เมื่อถึงเวลานอน ร่างกายจะรู้สึกเพลีย เรียกร้องการพักผ่อน อีกทั้งในขณะปั่นสมองจะหลั่งฮอร์โมนความสุขออกมา ช่วยลดความตึงเครียด ช่วยทำให้หลับสบายมากขึ้น

จากการทดลองพบว่าการปั่นโดยตั้งตัวตรง (90 องศา) ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่องคชาติมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการปั่นแบบทำมุม 60 องศาหรือการก้มตัวปั่นดังนั้นนักปั่นที่ต้องการความเร็วโดยการโน้มตัวปั่น แนะนำให้ยืนปั่นสลับกับท่านั่งทุกๆ 10 นาทีเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจน การไหลเวียนของเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงบริเวณองคชาติได้

5. ปั่นจักรยานคลายโรคเครียด ป้องกันโรคซึมเศร้า
การปั่นจักรยาน ทำให้ได้พบปะผู้คนมากขึ้น มีเพื่อนร่วมทำกิจกรรม สร้างความสุนกสนาน

การปั่นจักรยาน จะใช้ประสาทหลายๆอย่างพร้อมกัน ช่วยการกระตุ้นเซลล์ในส่วน Hippocampus การปั่นช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด ข่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่ในส่วน Hippocampus ซึ่งทำหน้าที่เปรียบเสมือนหน่วยบันทึกความทรงจำ มีการวิจัยยืนยันว่าคนที่ปั่นจักรยานเป็นประจำทำคะแนนการทดสอบสมองได้ดีกว่าคนปกติ 15 เปอร์เซ็นต์